วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ตี Trend Line ง่ายๆ แค่นับ 1-2-3




วันนี้เม่าน้อยขออนุญาตมาแชร์ วิธีการตี Trend Line แบบง่ายๆ สไตล์เม่าน้อยให้เพื่อนๆ เอาไปลองใช้กันครับ



Trend line มีประโยชน์สำหรับใช้หาจุดเข้าซื้อ จุดทำกำไร และจุด Cutloss ครับ


ขั้นตอนก็ ง่ายๆ ก็คือการลากเส้นผ่านจุดต่ำสุด  หรือจุดที่ราคาจะกลับขึ้น ( สำหรับขาขึ้น ) หรือจุดสูงสุด ( สำหรับขาลง )  นับ 1 ไปยังจุดต่อไป จุดที่ 2 และหากพบจุดที่ 3 ก็...ลุยได้

มาลองดูตัวอย่างกันครับ



จะเห็นว่ามีจุดที่ Trend line ผ่านทั้งหมด 4 จุด อันนี้แสดงว่ามีความแข็งแรงของเส้นมากๆ ถามว่าแล้วเส้นแข็งแรงมากมันสำคัญยังไง?  
ความสำคัญคือถ้าราคาหลุดจากเส้นนี้ ซึ่งเคยเป็นแนวรับอยู่ไปได้ก็มีแนวโน้มว่าจะร่วงยาวครับ

จากรูปจะเห็นได้ว่าเมื่อราคาลงมากระทบ Trend line จะเด้งกลับทุกครั้ง ดังนั้นการเข้าซื้อในจดที่ราคาลงมากระทบ Trend line จึงมีแนวโน้มว่าจะทำกำไรได้ โดยมีจุด Cut loss ที่ไม่ห่างมากจากราคาซื้อ คือเมื่อราคาหลุดจาก Trend line นั่นเองครับ

ลองดูอีกตัวครับ CHG 



วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2559

คำถาม 3 ข้อก่อนจะเริ่มลงทุน


สวัสดีครับก่อนที่เราจะเริ่มลงทุนกัน เม่าน้อยอยากให้เพื่อนๆนักลงทุนตอบ คำถาม 3 ข้อนี้ก่อนครับ

1.       ผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุน เราต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนเท่าไหร่ 5% 10% หรือ 20%

2.       วิธีการในการลงทุน  เพื่อที่จะได้ผลตอบแทนที่ต้องการ เราจะใช้แนวไหนในการลงทุน พื้นฐาน เทคนิคอล หรือแบบผสมผสาน  โดยเมื่อตัดสินใจได้แล้ว เราจะได้มองหาเครื่องมือมาใช้งานให้เหมาะสม  เช่นหากเป็นแนวเทคนิคอลเหมือนเม่าน้อย ก็ต้องดูว่าเราจะใช้ indicator ใดในการทำให้ได้ผลตอบแทนตามต้องการ

3.       ข้อสุดท้ายนี้สำคัญที่สุดครับ นั่นก็คือ แถ่น แทน แท้น.....  เราต้องรู้ว่าเราเป็นนักลงทุนประเภทไหน   เป็นนักลงทุนระยะยาว ระยะกลาง ระยะสั้น หรือระยะสั้นมั่กๆ (ส่วนใหญ่จะเป็นแนวนี้ )

ถามว่าทำไมข้อนี้จึงสำคัญที่สุด ขอตอบว่าเพราะหากเราไม่รู้ว่าเราเป็นนักลงทุนแนวไหนจะทำให้เราใช้เครื่องมือ หรือ indicator ต่างๆไม่เหมาะสม และนำไปสู่การติดดอยนั่นเอง...

แล้วระยะสั้น กลาง ยาว นี่มันแบ่งยังไง.. มีคนเค้าแบ่งไว้ตามนี้ครับ

ระยะการลงทุน
ระยะเวลา
ระยะยาว ( แนวโน้มหลัก )
1 ปี ขึ้นไป
ระยะกลาง ( แนวโน้มรอง )
3 สัปดาห์ – 3 เดือน
ระยะสั้น ( แนวโน้มย่อย )
2 – 3 สัปดาห์

คนที่แบ่งไว้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เค้าคือ Mr.Charles Henry Dow เจ้าของ Dow Theory นั่นล่ะครับ

แต่จากการที่โลกปัจจุบันมันหมุนเร็วมากกว่าสมัยคุณ Dow เยอะมาก ปัจจุบันเม่าน้อยสังเกตุได้ว่าระยะต่างๆ มันเปลี่ยนไป...ดังนี้

ระยะการลงทุน
ระยะเวลา
ระยะยาว ( แนวโน้มหลัก )
1 สัปดาห์ ( ก็ใจจะขาด )
ระยะกลาง ( แนวโน้มรอง )
1 – 3 วัน
ระยะสั้น ( แนวโน้มย่อย )
1 วัน ( ซื้อ ขายในวันเดียว )


จริงมั้ยใครเห็นด้วย หรือเป็นแบบนี้บ้างครับ...  

คราวนี้ถ้านักลงทุนตัดสินใจไม่ถูกว่าจะอยู่ฝั่งไหนดี ก็ลองแบ่งสัดส่วนการลงทุนดูครับ อาจจะระยะยาว 40% กลาง 30% และระยะสั้นมากๆ 30% ตามที่ต้องการและตรงกับจริตของเพื่อนๆครับ

เราอ่านแท่งเทียนไปทำไม?

ผมเชื่อเหลือเกินว่าเทรดเดอร์และนักลงทุนไม่ว่าจะเป็นหน้าเก่า หน้าใหม่คงต้องเคยเห็นเจ้ากราฟแท่งเทียนนี้ผ่านตากันมาแล้วแน่นอน แต่ทุกคนเคยทรา...